วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

นิทานดาวลูกไก่

ดาวไก่น้อยพระอาทิตย์ยามเย็นส่องแสงนวลสีเหลืองอ่อยใกล้ลับภูเขา สองเฒ่าตายายกำลังกลับจากหาฝืนในป่าก็กลับกระต๊อบ ยายก็มาหุงหาข้าวปลาอาหาร ตาก็ถือขันข้าวเปลือกไปให้อาหารแม่ไก่กับลูก 6 ตัว ที่พาลูกไปเที่ยงป่าไผ่หลังกระต๊อบทั้งวัน ตกค่ำตายายก็จุดตะเกียงนั่งกินข้าวนอกชานซึ่งมีหลังคาคลุมอยู่ เสียงร่ำลือหนาหูว่ามีพระธุดงค์รูปหนึ่งมาปักกรดหลังหมู่บ้าน ตายายกินข้าวไปพลางปรึกษากันว่าจะฆ่าแม่ไก่ตัวนี้เสีย เพื่อไปจังหันพระ แม่ไก่ที่กำลังกกลูกนอนอยู่ได้ยินก็บอกกับลูกว่า “ลูกเอ้ย....มื้ออื่นแม่จะต้องตายแล้ว แม่จะต้องตอบแทนบุญคุณที่ตายายชุบเลี้ยงมาตั้งแต่เป็นลูกเจี๊ยบ” ลุกไก่ทั้ง 6 ได้ยินดังนั้นก็ร้องให้ซบอกแม่แน่นขึ้น แม่ไก่ก็กระซิก สะอื้นสั่งเสียลูกต่อไปว่า “ลูกๆทั้ง 6 คนต้องรักกัน สามัคคีกัน น้องต้องเชื่อฟังพี่ แม่ตายแล้วก็อย่าพากันไปเล่นไกลกระท่อม เดี๋ยวจะพลัดหลงทาง” นางแม่ไก่ กอดลูกน้อยนอนร้องไห้ทั้งคืน จนหลับไปกลางดึกด้วยความเหนื่อยอ่อน แต่คราบน้ำตานั้นยังไม่จางหายไปจากเบ้าตาของแม่ลูก ลูกไก่บางตัวยังไม่หลับสนิทยังสะอื้นกระซิกๆ ยันสว่าง เช้าวันนี้ เป็นวันนี้แปลกและเศร้าสลด แม่ไก่ไม่ได้พาลูกไปออกหากินเช่นเคย นางกอดลูกรอความตายหน้ากระท่อม ถึงแม้นางอยากตายเพื่อตอบแทนบุญคุณตายาย แต่ก็หาอยากจากลูกในอกไปไม่ นางกอดลูกอยู่อย่างนั้น รอความตายอย่างน่าสงสาร บางทีอยากอยากจะพาลูกหนีไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่กลัวว่าลูกจะอยู่อย่างลำบากระหกระเหินเร่ร่อน ตากับยายเดินลงกระท่อมาแล้ว ตายายตรงรี่เข้าแม่ไก่ทันที ตามปกติการจับไก่ที่ไม่ค่อยเชื่องต้องใช้คนหลายคนวิ่งไล่กันพัลวัน พอจนมุมก็จับคอแล้วรวบขา เอาหัวไก่ห้อยต่องแต่งในกำมือคนจับ แต่แม่ไก่ตัวนี้ยอมให้ตาอุ้มไปโดยดี ลูกไก่ได้ออกจากอกแล้ว น้ำตาของทั้งสองฝ่ายต่างไหลออกจากเบ้าตาอีกครั้งและไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะหยุดซักที ลูกไก่วิ่งตามตามาอย่างสุดฝีเท้าแต่ก็ไม่อาจห้ามปรามตากับยายได้ แม่ไก่โดนยายถอนขนบริเวณต้นคอ นางแม่ไก่ร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวด ลูกไก่ได้แต่ร้อง เจี๊ยบๆๆๆ ยิ่งหลายตัว ยิ่งส่งเสียงหนวกหูคนฟัง แต่ความจริงแล้ว ลูกไก่เหล่านั้นกำลังร้องเรียกหาแม่ บ้างก็ร้องไห้ ร่ำรำพันถึงแม่ บางตัวอดไม่ได้ถึงกับต่อว่าด่าตากับยาย แม่ไก่ถูกถอนขนเกือบครึ่งคอ ตาก็หยิบมีดมา เพื่อจะปาดคอให้ตาย แม่ไก่หลับตาแน่นเบ้า ลูกไก่ยิ่งร้องเจี๊ยบๆๆ ดังขึ้นเรื่อยๆ มีดได้ปาดเนื้อคอแม่ไก่แล้ว เลือดกำลังไหลออกมาอย่างช้าๆ ยายเอาถ้วยมารองเลือดไว้ ตาใช้ปาดไปมา สองสามครั้งเลือดก็ไหลออกมาดังเปิดก๊อกน้ำ บัดนี้แม่ไก่หมดแรง และเจ็บปวดทุกข์ทรมานเหลือคณา ลูกตาของแม่ไก่เหลือกขึ้นบนฟ้าแล้วก็สะอึกสองทีแล้วนางแม่ไก่ก็ตายจริงๆแล้ว ลูกไก่ได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดได้แต่ส่งเสียงเรียกแม่ด้วยความไร้เดียงสา เจี๊ยบๆๆๆ เสียงนี้ดังก้องกระท่อม...แม่ไก่ตายแล้ว.....แม่ไก่ตายแล้วไม่รู้ว่าลูกจะอยู่อย่างไร ไม่รู้ว่าลูกทนทุกข์ทรมานเมื่อขาดแม่ ลูกไก่ร่ำไห้เรียกหาแม่ตลอดเวลา น้ำร้อนเดือดแล้ว ยายน้ำร่างแม่ไก่ไปลวกแล้วถอนขน แม่ไก่ไม่รู้หรอกว่า ตอนแม่ถูกถอนขน มันเจ็บกระดองใจลูกผู้เห็นแม่ขนาดไหน ใจลูกอยากจะตายแทนแม่เหลือเกิน แม่จ๋า แม่จ๋า แม่อยู่ไหน ลูกจะตายกับแม่ แม่รอหนูนะจ๊ะ ไม่ว่าแม่อยู่ไหน หนูจะตามไปทุกหนทุกแห่ง หนูจะไปเกิดเป็นลูกแม่ทุกชาติ แม้แม่จะเกิดเป็นไส้เดือนกิ้งกือ หนูก็จะไปเกิดในท้องแม่ แม้แม่จะเกิดเป็นพยาธิหนูก็จะไปเกิดในท้องแม่ ทำไม ทำไมแม่ต้องมาจากหนูไปด้วย แม่จ๋า แม่อยู่ไหน ทำไมไม่พาหนูไปอยู่ด้วยพอถอนขนเกรียนแล้ว ยายก็จะเอาร่างนั้นไปจี่เพื่อเผาขนอ่อนที่เหลือ ทันใดนั้นเอง ลูกไก่ทั้งหมดตัดสินใจ วิ่งสุดฝีเท้ากระโดดเข้ากองไฟตายไปกับแม่......ด้วยอานิสงส์อันประเสริฐ ทั้งหมดได้เกิดเป็นดาว............................อ้างอิงที่มาอ้างอิงกระทู้มาจากเว็บไซต์อีสานจุฬาฯSponsor Links
google_protectAndRun("ads_core.google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น